Name plate motor (เนมเพลตมอเตอร์ไฟฟ้า)บอกอะไรเราบ้าง
โดยทั่วไปมอเตอร์ไฟฟ้าทุกตัวจะมีแผ่นป้ายหรือเนมเพลต (Name plate motor) ซึ่งติดมากับตัวมอเตอร์ ในเนมเพลตจะแสดงถึงรายละเอียดข้อมูลต่างๆของมอเตอร์ตัวนั้นๆ เช่น ขนาดกำลังไฟฟ้าขาออก (kW Output), ความเร็วรอบ (Speed), แรงดันไฟฟ้า (Volt) หากไม่มีเนมเพลตของมอเตอร์จะทำให้เกิดความยุ่งยากในการบำรุงรักษาหรือแม้กระทั่งการหามอเตอร์ตัวใหม่มาทดแทนมอเตอร์ตัวเดิม เนื่องจากการมองด้วยตาปล่าวไม่สามารถทราบข้อมูลต่างๆที่แน่ชัดของมอเตอร์ได้เลย และวันนี้เราจะมาอธิบายรายละเอียดของข้อมูลแต่ละตัวใน Name plate motor ไปดูกันเลย
มอเตอร์ยี่ห้อต่างๆ จะมีรูปแบบของเนมเพลตที่แตกต่างกันออกไป แต่จะมีรายละเอียดที่คล้ายคลึงกัน โดยในที่นี้จะอ้างอิง Name Plate Motor ยี่ห้อ MITSUBISHI ELECTRIC
- ประเภทของมอเตอร์ (Motor type) มอเตอร์เหนี่ยวนำ (Induction Motor) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามลักษณะการจ่ายไฟจากแหล่งจ่าย คือ มอเตอร์เหนี่ยวนำเฟสเดียว (Single Phase Motor) มอเตอร์เหนี่ยวนำสามเฟส (Three Phase Motor)
- กำลัง (Power Output) ค่ากำลังขาออกของมอเตอร์ที่เพลาแสดงหน่วยเป็น 2 แบบ คือ แรงม้า (Horse power หรือ HP) กิโลวัตต์ (kilowatt หรือ kW)
- ค่าทางไฟฟ้า (Electrical Characteristic) ค่าแรงดันไฟฟ้า มีหน่วยเป็น โวลต์ (Volt หรือ V) ค่าความถี่ไฟฟ้า มีหน่วยเป็น เฮิร์ตซ์ (Hertz หรือ Hz) ค่าปริมาณกระแสไฟฟ้าที่มอเตอร์ใช้ มีหน่วยเป็น แอมแปร์ (Ampere หรือ A)
- ขั้ว (Pole) มอเตอร์มาตรฐานทั่วไปจะเป็นแบบ 2pole 4 pole 6pole ดังนั้น จำนวน pole จะมีผลต่อความเร็วรอบมอเตอร์ คือเป็นตัวที่กำหนดความเร็วรอบ ความเร็วของมอเตอร์ หรือที่นำไปใช้งาน ซึ่งจะมีค่าไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับการออกแบบ
5. ความเร็วรอบของมอเตอร์ (Speed) จะบอกการหมุนของรอบต่อนาที (r/min) โดยมีชื่อย่อเป็น rpm หรือด้วยสัญญาลักษณ์ min-1 ย่อมาจาก Revolutions per minute
6. ระดับการป้องกัน ( Ingress Protection : IP ) เป็นการบอกระดับการป้องกันฝุ่นและของเหลว
7. ขนาดเฟรม (Frame Number) ตัวเลข คือ ความสูงจากพื้นถึงกึ่งกลางเพลา (หน่วยเป็น มม.) ตัวอักษร คือความยาว (S M L)
8. พิกัดการทำงาน (Rating) การกำหนดลักษณะการทำงานของมอเตอร์ที่มีความสัมพันธ์กับช่วงเวลา นี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ หน้าที่การทำงานต้องสัมพันธ์กับเวลา จึงต้องมีมาตรฐานมารองรับ เพื่อความถูกต้อง ซึ่งตามมาตรฐาน VDE O530 หรือตามมาตรฐาน IEC 34-1 ได้แบ่งลักษณะการทำงานหลัก ๆ ไว้ ดังต่อไปนี้
- ชนิดS1: การทำงานอย่างต่อเนื่อง (Continuous Running Duty)
- ชนิดS2: การทำงานช่วงสั้น (Short-time Duty)
- ชนิดS3: การทำงานเป็นคาบไม่คิดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิจากการสตาร์ท
- ชนิดS4: การทำงานลักษณะเป็นคาบที่คิดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิจากการสตาร์ท
- ชนิดS5: การทำงานลักษณะเป็นคาบที่คิดการเพิ่มของอุณหภูมิจากการสตาร์ทและเบรกทางไฟฟ้า
- ชนิดS6: การทำงานต่อเนื่องลักษณะเป็นคาบเวลา (Continuous Operation Periodic Duty)
- ชนิดS7: การทำงานต่อเนื่องลักษณะเป็นคาบที่คิดการสตาร์ทและการเบรกทางไฟฟ้า
- ชนิดS8: การทำงานต่อเนื่องลักษณะเป็นคาบที่คิดความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงโหลดต่อความเร็ว
- ชนิดS9: การทำงานต่อเนื่องลักษณะโหลดไม่เป็นคาบและความเร็วเปลี่ยนแปลง
9. ชนิดของฉนวน (Insulation Class) บอกถึงความทนทานความร้อนของมอเตอร์ เช่น คลาส B ทนได้ถึง 130 องศาเซลเซียส
10. ค่าประสิทธิภาพของมอเตอร์ (Efficiency) คือ อัตราส่วนระหว่างกำลังขาออก (Output Power) และกำลังไฟฟ้าขาเข้า (Input Power)
กำลังขาออก : กำลังงานที่มอเตอร์สามารถทำได้
กำลังไฟฟ้าขาเข้า : พลังงานไฟฟ้าที่มอเตอร์ต้องการใช้เพื่อทำให้เกิดกำลังงานนั้นๆ
ค่าประสิทธิภาพของมอเตอร์สามารถคำนวณได้ตามสมการดังนี้
ประสิทธิภาพ (%) = กำลังไฟฟ้า(output) / กำลังไฟฟ้า(input) x 100
ระดับประสิทธิภาพ (Efficiency Class) บอกถึงบอกถึงระดับประสิทธิภาพตามมาตรฐาน( IEC, IE1 มอเตอร์มาตรฐาน), (IE2 มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง)
บริษัท เมคคานิก้า จำกัด นำเข้าและจำหน่ายมอเตอร์ โดยมีมอเตอร์ให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ เช่น GAST, MITSUBISHI, CPG, BROOK CROMPTON
อีกทั้งยังมี ปั๊มน้ำ, ปั๊มสารเคมี, เครื่องเติมอากาศ และเครื่องจักรอุตสาหกรรมต่างๆอีกหลากหลาย หากคุณลูกค้าท่านใดต้องการคำแนะนำหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ทีมวิศวกรฝ่ายขายของบริษัท เมคคานิก้า ยินดีให้คำแนะนำ และสามารถนัดหมายเพื่อเข้าประเมินหน้างานได้เลยค่ะ
สอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ บริษัท เมคคานิก้า จำกัด
TEL 02-011-1000 , Hotline 088-008-2305
รับชมสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมายที่ YOUTUBE : MECHANIKA