ระบบดับเพลิง (Fire Pump System) เป็นระบบที่ใช้ป้องกันไฟไหม้ ป้องกันอัคคีภัยตามในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หน่วยงานราชการ รวมถึงในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพราะระบบดับเพลิง มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่าง ไฟไหม้ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทำให้มีกฎหมายเกี่ยวกับ พรบ. ควบคุมอาคารบังคับให้ต้องมีเรื่องของระบบป้องกันเพลิงไหม้ให้ทุกชั้นของอาคาร มีระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบระบายอากาศ ระบบตรวจจับควันไฟ ที่ทำงานร่วมกันเป็นระบบอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ตามที่กฎหมายตั้งไว้
ระบบดับเพลิงมีอยู่หลายรูปแบบเพื่อให้มีความเหมาะสมกับวัสดุเชื้อเพลิงและลักษณะของตัวอาคารที่ต่างกันไป สามารถจำแนกได้ดังนี้
1.ระบบดับเพลิงด้วยน้ำชนิดสายสูบ (Hydrant And Standpipe System)
2.ระบบดับเพลิงด้วยน้ำชนิดโปรยน้ำฝอย (Sprinkler System)
3.ระบบดับเพลิงด้วยน้ำชนิดพ่นน้ำฝอย (Water Spray System)
4.ระบบน้ำยาสร้างฟองอากาศ (Foam System)
5.ระบบใช้สารดับเพลิงสะอาด (Clean Agent System)
6.ระบบที่ใช้ผงเคมีชนิดแห้ง (Dry Chemical System)
7.ระบบที่ใช้ผงเคมีชนิดเปียก (Wet Chemical System)
ในวันนี้เราจะมาเล่าถึง ระบบดับเพลิง Fire Pump System ชนิดพ่นน้ำฝอย แบบท่อแห้ง (Dry Pipe System) ตัวอย่างตามในรูป ซึ่งระบบนี้ภายในท่อไปจนถึงหัวฉีดจะไม่มีน้ำอยู่เลย ท่อของระบบนี้จะมีการอัดอากาศหรือไนโตรเจนเข้าไปแทนน้ำบรรจุภายใต้แรงดันที่เหมาะสม ทำให้ระบบนี้ต้องมีปั๊มลม (Air compressor) เป็นตัวช่วย โดยที่อัตราการไหลของปั๊มลมจะต้องมีการเติมอากาศให้เต็มระบบท่อภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที เช่น ถ้าในระบบมีปริมาตร 300 แกลลอน อัตราการไหลของปั๊มลม = 300/30 = 10 gpm ความดันที่จะต้องรักษาให้เป็นไปตามคำแนะนำ เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นอย่างไฟไหม้ ความร้อนจะทำให้หัวฉีดเปิดออก ลมที่ถูกอัดไว้จะระบายไปยังทางของหัวฉีดทำให้ความดันลมที่อัดภายในท่อลดลง เมื่อความดันลดลงความดันของน้ำก็จะดันให้วาล์วท่อแห้ง (Dry-pipe valve) เปิดออกและส่งน้ำไปยังหัวฉีดต่างๆ ที่กำลังทำงานอยู่ เพื่อช่วยในการดับไฟ ส่วนใหญ่ระบบดับเพลิงแบบนี้นิยมใช้ในห้องที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงๆ เช่น ในโกดังเก็บของ ในห้องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น