ตัวช่วยทำความสะอาดเซ็นเซอร์ไอดีในรถยนต์ (MASS AIR FLOW SENSOR)
รถยนต์หนึ่งคันมีระบบการทำงานอยู่หลายส่วน แต่ส่วนหลักๆนั้นคือ ระบบเซ็นเซอร์ไอดี (Air Intake System) มีหน้าที่ในการเอาอากาศที่สะอาดเข้ากระบอกสูบตามปริมาตรที่ต้องการส่วนประกอบของระบบไอดี ได้แก่ แอร์โฟร์ ลิ้นปีกผีเสื้อ MAP SENSOR หม้อกรองอากาศ ท่อไอดี โดยหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ของระบบไอดี ที่สำคัญที่อยากแนะนำให้รู้จัก คือ แอร์โฟร์ หลายๆคนอาจจะรู้จักกันอยู่แล้ว แต่ก็คงมีอีกหลายคนที่ยังคงสงสัยหรือไม่เคยรู้จักมาก่อน งั้นเราไปทำความรู้จักไปพร้อมๆกันเลย
ที่มาภาพ: https://www.bplusauto.com/mass-airflow-sensor
แอร์โฟร์ หรือ Mass Airflow Sensor-AF (MAF Sensor) หรือที่เรียกกันว่า มาตรมวลวัดอากาศ ตำแหน่งของมันส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับกรองอากาศของรถยนต์หน้าที่หลักของอุปกรณ์ชนิดนี้คือ ช่วยวัดระดับการไหลเวียนของอากาศผ่านท่อร่วมไอดี การวัดอากาศที่ว่านี้จะดูที่เรื่องของความเร็ว ในส่วนของอากาศที่มีการไหลผ่านเซ็นเซอร์เพื่อส่งสัญญาณเข้ากล่องควบคุมเครื่องยนต์ (ECU)จากนั้น ECU ก็จะนำข้อมูลที่ได้นี้ไปใช้ประมวลผลเพื่อสั่งการใช้งานการควบคุมเครอื่งยนต์ในส่วนของปริมาณน้ำมันที่จะต้องอัดฉีด นอกจากนั้นแล้ว ข้อมูลที่ได้จากแอร์โฟร์ ที่ส่งผ่าน ECU จะใช้ค่านี้กำหนดจังหวะในการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ซึ่งถ้ามวลวัดอากาศ ทำงานไม่ปกติจังหวะการจุดระเบิดก็จะรวน ส่งผลให้ระบบเครื่องยนต๋ทำงานไม่ปกติ
อาการของรถที่เกิดขึ้นเมื่อแอร์โฟร์เสียหาย ปกติทั่วไปนั้นแอร์โฟร์ ไม่ใช่อุปกรณ์ที่จะเกิดการเสียหายได้ง่าย แต่ถ้าหากเจอกับสิ่งสกปรก อาทิเช่น ฝุ่นละอองต่างๆ หรือคาบน้ำมัน ติดอยู่หนาแน่นเกินไป รวมไปถึงอุปกรณ์โดนน้ำ ระดับความชื้นสูง จะเพิ่มความโอกาสสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ชนิดนี้ได้ง่ายกว่าปกติ เมื่อไหร่ที่ Air flow เกิดความเสียหาย การขับขี่ของรถยนต์จะเริ่มมีอาการแปลกไป และเราสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
- รถยนต์เมื่อวิ่งรอบเบา จะทำให้เกิดอาการดับ อาการนี้จะชัดเจนที่สุด คือ เวลาที่รถเดินรอบเบามักจะดับแบบไม่มีสาเหตุ เช่น ขับรถไปเจอการกลับรถกำลังชะรอความเร็วเมื่อรอบตัดเป็นรอบเดินเบาอยู่ดีๆรถก็ดับกลางอากาศไปเลย หรือพอจอดรถติดไฟแดงปรากฏรถดับกลางคัน กว่าจะสตาร์ทติดก็ต้องใช้เวลาสักพักเลยทีเดียว
- เร่งเครื่องไม่ค่อยขึ้น น้ำมันลดลงเร็ว อาการต่อมาที่สังเกตได้ชัดเจนมากขึ้นคือเหยียบคันเร่งแต่รถดันไม่ไป หรือเร่งไม่ขึ้น บางคนเคยขับในระดับ 150 กม/ชม แต่ถ้ามาตรวัดมวลอากาศเสียหายอาจเหยียบได้แค่ความเร็วสูงสุด 100 กม/ชม
- วิ่งทำระยะรอบได้น้อย อาการรุนแรงสุดท้ายอาจเกิดขึ้นได้ เช่นอาจวิ่งแค่ 2,000 รอบ แต่ถ้าเกิดรอบเครื่องจะดับเองทันที
อาการเหล่านี้เป็นอาการเบื้องต้นที่ผู้ขับขี่สามารถสังเกตุอาการเองได้ อย่างไรก็ตามหากเกิดความเสียหายควรจะนำรถเข้าอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญ และวิธีการดูแลเบื้องต้น คือ หมั่นเปลี่ยนกรองอากาศ หลังการถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมทำความสะอาดอยู่เสมอ ถ้าเราสามารถถอดมาทำความสะอาดเองได้ก็จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เดี๋ยวเรามาบอกวิธีการถอดและมีเครื่องมือที่ต้องใช้ว่ามีอะไรบ้าง เราไปดูพร้อมๆกันเลย
เครื่องมือ และอุปกรณ์ถอดลิ้นปีกผีเสื้อ
ประแจบล็อคเบอร์ 10 , ไขควงแฉก ,คีมปากยาว ,แปรง ,ภาชนะใส่น้ำมัน ,น้ำมันเบนซิน หรือ สเปรย์ทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อ
ขั้นตอนการถอดแอร์โฟร์
– ถอดซ็อกเก็ตสายไฟออก แล้วขัดน๊อตยึด 2 ตัวออก
– ดึงเซ็นเซอร์แอร์โฟร์ขึ้นมา ถอดยางกันน้ำออกก่อน แล้วเอาไปล้างธรรมดาไม่แช่น้ำ
– ตำแหน่งที่ต้องสเปรย์น้ำยาทำความสะอาดเข้าไปคือ คือ เซ็นเซอร์อุณหภูมิ ห้ามนำวัสดุอื่นไปโดนเส้นแอร์โฟร์เป็นเด็ดขาด เพราะมันบอบบางมาก
เห็นมั้ยคะว่าการล้างลิ้นปีกผีเสื้อ-แอร์โฟร์ มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก เราสามารถทำเองได้ด้วยการถอดมาล้างแล้วใช้สเปรย์ทำความสะอาดเซ็นเซอร์ไอดี MASS AIR FLOW SENSOR CRC และเมื่อชิ้นส่วนต่างๆสะอาดแล้ว อาการเหล่านั้นก็จะหายไป แต่โปรดใช้ความระมัดระวังและดูวิธีการอย่างละเอียด หากผิดพลาดอาจะทำให้เกิดปัญหาได้
หากสนใจสเปรย์ทำความสะอาดเซ็นเซอร์ไอดี สามารถสั่งซื้อได้ที่บริษัท เมคคานิก้า จำกัด นอกจากนี้แล้วทาง บริษัทเมคคานิก้า จำกัด ยังมีสินค้าสเปรย์เคมีอีกมากมาย พร้อมสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิเช่น อุปกรณ์ระบบน้ำและปั๊มชนิดอื่นๆ, ปั๊มเคมี, มอเตอร์, เครื่องอัดลม, เครื่องเติมอากาศ, รอกและระบบลำเลียง